CV แพทย์ | เคล็ดลับพร้อมแนวทางการเขียนสำหรับงานต่อไปของคุณ

คะแนนเฉลี่ยสำหรับเทมเพลตนี้

5.0
Rated 5.0 out of 5
จาก 1 ความคิดเห็นของลูกค้า

งานทางการแพทย์เป็นงานที่มีความต้องการสูงอยู่เสมอ โดยแพทย์ทำหน้าที่ทั้งในการวินิจฉัยโรครวมทั้งวางแผนในการรักษา ทั้งแบบทั่วไปและแบบเฉพาะทาง หลายคนเลือกที่จะเปิดคลินิกเป็นของตัวเอง แต่บางคนก็เลือกที่จะทำงานกับคลินิกอื่นหรือโรงพยาบาล หลายคนใฝ่ฝันที่จะเป็นแพทย์รักษาผู้ป่วย เพราะมีความสุขจากการที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นในทุก ๆ วัน แม้ว่างานจะยากและหนักหนาเท่าไหร่ก็ตาม

จากข้อมูลที่ในแต่ละปีมีแพทย์ที่เรียนจบมา 3,121 คนต่อปี โดยประมาณ ซึ่งการสมัครงานเข้าเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับเป็นพิเศษ ก็ต้องมี CV แพทย์ที่น่าเชื่อถือและน่าสนใจเพื่อนำไปยื่นในองค์กรนั้น ๆ ในบทความนี้จะพูดถึงวิธีในการจัดทำ CV แพทย์ที่ดี รวมทั้งสามารถดูตัวอย่าง CV แพทย์ด้วย

ตัวอย่าง CV แพทย์

ภาคภูมิ ชัยชนะ
แพทย์

2991 ถนนพัฒนาการ
แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250

052-438-6621
pchaichana@gmail.com
Linkedin.com/in/pchaichana

สรุปทักษะและผลงานจากการทำงาน
จบการศึกษาสาขาวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์ในการวินิจฉัยรักษาโรค และสั่งยา เป็นแพทย์ผู้ช่วยฝ่ายฉุกเฉินในการผ่าตัดและรักษาอาการบาดเจ็บ รวมทั้งดูแลรักษามารดาที่ตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์เป็นเวลา 3 ปี ผลการฝึกงานอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนั้นยังมีผลงานด้านการเป็นแพทย์อาสาเพื่อให้ความรู้และช่วยเหลือคนในชุมชนทางการแพทย์ในจังหวัดเพชรบูรณ์อีกด้วย

ประสบการณ์การทำงาน
โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
แพทย์ฝึกหัด
สิงหาคม 2559 – สิงหาคม 2562

  • สังเกตอาการ ซักประวัติ และตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุปัญหาด้านสุขภาพของผู้ป่วย
  • ตรวจร่างกายโดยใช้เครื่องมือพื้นฐานและพิเศษ และนำความรู้ทั้งทางทฤษฎีรวมทั้งหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วย
  • บันทึกเวชระเบียน ให้บริการสุขภาพผู้ป่วยแบบองค์รวม พร้อมปรึกษาหารือผู้ที่มีความชำนาญเพื่อส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาต่อได้อย่างเหมาะสม

การศึกษา
ปริญญาตรี สาขาวิชาแพทย์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มีนาคม 2558

กิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม
เข้าร่วมโครงการ Work and travel ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
เข้าร่วมโครงการ Work and holiday ที่ประเทศออสเตรเลีย

ใบประกาศนียบัตร
TOEIC 670 คะแนน

อัตราจ้างและเงินเดือนแพทย์

ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนแพทย์ทั่วไปจาก Admission Premium พบว่า อัตราจ้างงานและเงินเดือนแพทย์มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • องค์กรของรัฐ: เงินเดือน 40,000 – 60,000 บาท ระยะเวลาทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โอที (บังคับ) 38 – 150 บาทต่อชั่วโมง
  • องค์กรของเอกชน: เงินเดือน 80,000 – 140,000 บาท ระยะเวลาทำงาน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โอที (ไม่บังคับ) 400 – 800 บาทต่อชั่วโมง

วิธีการเขียน CV แพทย์

วิธีการเขียน CV แพทย์ที่ดี นอกจากการใส่ข้อมูลที่สำคัญอย่างครบถ้วนแล้ว ควรมีการแบ่งเนื้อหาออกมาเป็นสัดส่วน เพื่อง่ายต่อการอ่านเพื่อรับรู้ข้อมูลของผู้พิจารณาด้วย โดยโครงสร้างของ CV แพทย์พื้นฐาน มีข้อมูลสำคัญดังต่อไปนี้:

  • ประวัติของแพทย์และข้อมูลติดต่อ
  • ตำแหน่งที่ต้องการสมัครงาน
  • สรุปทักษะและผลงานจากการทำงาน (Professional Summary)
  • ประสบการณ์การทำงานหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
  • การศึกษา
  • ทักษะ
  • ส่วนเพิ่มเติมอื่น ๆ (เช่น ภาษา, ใบประกาศนียบัตร, รางวัลที่ได้รับ และความสนใจส่วนตัวอื่น ๆ เป็นต้น)

เคล็ดลับของการเขียน CV ของคุณให้น่าสนใจและแตกต่างจาก CV ของคนอื่น ๆ

  • อ่านข้อมูลเปิดรับสมัครงานของทางโรงพยาบาลหรือคลินิกให้ดีว่า พวกเขาต้องการแพทย์ที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง แล้วคุณมีคุณสมบัติที่ตรงกันอย่างไร เพื่อเขียน CV แพทย์ของคุณให้ตรงและเข้ากับคุณสมบัติเหล่านั้น
  • นอกจากเนื้อหาที่ตอบโจทย์แล้ว ก็ต้องจัดรูปแบบ CV ให้อ่านง่ายด้วย โดยประกอบไปด้วยข้อมูลชื่อ ข้อมูลสำหรับติดต่อ จากนั้นก็เป็นส่วนของประสบการณ์การทำงาน การศึกษา และส่วนเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่สำคัญ
  • ใส่ตำแหน่งงานที่ต้องการสมัครก่อนไว้ที่ต้น CV เพื่อที่ผู้พิจารณาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเพ่งหาข้อมูลว่าใบสมัครงานนี้เป็นของตำแหน่งอะไรกันแน่ เพราะบางองค์กรอาจประกาศรับสมัครงานในหลายตำแหน่ง และ CV ที่มีการระบุตำแหน่งงานที่สมัครชัดเจนตั้งแต่แรกก็จะทำให้ผู้พิจารณา CV เห็น CV ของคุณง่ายขึ้นและไม่ตกหล่น

รูปแบบและโครงสร้างของ CV แพทย์

ข้อมูลใน CV ควรเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และไม่มีคำที่สะกดผิด เพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจของเจ้าของ CV ซึ่งฟอนต์ที่ควรใช้มีขนาดประมาณ 10-12 ฟอนต์ที่แนะนำสำหรับ CV ภาษาอังกฤษ คือ Calibri, Times New Roman, Cambria และ Arial และฟอนต์แนะนำสำหรับ CV ภาษาไทย คือ TH Sarabun New

รูปแบบของ CV แพทย์

รูปแบบของ CV แบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบโดยทั่วไป คือ

  • รูปแบบตามลำดับเวลา CV ที่มีการเขียนถึงประสบการณ์ในการทำงานแบบเรียงลำดับเวลาล่าสุดไปยังก่อนหน้า
  • รูปแบบโชว์ทักษะส่วนตัว แสดงให้เห็นถึงทักษะส่วนตัวของผู้สมัคร เพื่อสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้กับ CV ของผู้สมัครเอง
  • รูปแบบผสม กล่าวถึงทั้งทักษะส่วนตัวและประสบการณ์ในการทำงานตามลำดับเวลา เพื่อเน้นทั้งความสามารถส่วนตัวและประสบการณ์ในการทำงาน

หัวข้อเรื่องและข้อมูลติดต่อ

หัวข้อเรื่องใน CV ควรประกอบไปด้วยข้อมูลชื่อ ตำแหน่งที่สมัคร รวมทั้งข้อมูลในการติดต่อ ซึ่งเป็นการบอกรายละเอียดว่าคุณชื่ออะไร ต้องการสมัครงานเข้ามาในตำแหน่งใด และมีข้อมูลสำหรับการติดต่อเป็นอะไร เพื่อติดต่อกลับหากต้องการเรียกเข้ามาสัมภาษณ์เพิ่มเติม เป็นต้น

หัวเรื่องที่ดี
ภาคภูมิ ชัยชนะ
แพทย์

2991 ถนนพัฒนาการ
แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250

052-438-6621
pchaichana@gmail.com
Linkedin.com/in/pchaichana

หัวเรื่องที่ไม่ดี
ภาคภูมิ
ชัยชนะ
แพทย์
ที่อยู่:
2991 ถนนพัฒนาการ
แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250
เบอร์โทร:
052-438-6621
อีเมล:
pch2556@gmail.com
facebook.com/pchcute25
📌 คำแนะนำ: หัวเรื่องของ CV โดยทั่วไปควรประกอบไปด้วยข้อมูลที่สำคัญเท่านั้น ไม่ควรเขียนให้เยิ่นเย้อ โดยข้อมูลที่สำคัญ ได้แก่ ชื่อ นามสกุล ตำแหน่งงาน ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ อีเมล และลิงก์ Linkedin เป็นต้น ซึ่งอีเมลที่ใช้สมัครงานควรเป็นแบบทางการ และไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลของลิงก์ที่ไม่จำเป็น เช่น ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

รูปภาพที่จะใช้ใน CV แพทย์ควรเป็นรูปที่แต่งกายเรียบร้อยและเป็นทางการ เพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ

ประสบการณ์การทำงานในฐานะแพทย์

ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน สามารถเรียงลำดับตั้งแต่ชื่อของโรงพยาบาลหรือคลินิกที่เคยทำงานด้วย ตำแหน่งหน้าที่ รวมทั้งระยะเวลาทั้งหมดที่ได้การทำงาน และเขียนถึงหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองที่ได้คำอย่างน้อย 3 ข้อขึ้นไป ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างประสบการณ์ทำงานของแพทย์

ประสบการณ์การทำงาน
โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
แพทย์ฝึกหัด
สิงหาคม 2559 – สิงหาคม 2562
  • สังเกตอาการ ซักประวัติ และตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุปัญหาด้านสุขภาพของผู้ป่วย
  • ตรวจร่างกายโดยใช้เครื่องมือพื้นฐานและพิเศษ และนำความรู้ทั้งทางทฤษฎีรวมทั้งหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วย
  • บันทึกเวชระเบียน ให้บริการสุขภาพผู้ป่วยแบบองค์รวม พร้อมปรึกษาหารือผู้ที่มีความชำนาญเพื่อส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาต่อได้อย่างเหมาะสม

การศึกษา

ในส่วนของการศึกษา สามารถเริ่มเขียนได้จากชื่อของมหาวิทยาลัย ระดับการศึกษา และเวลาที่สำเร็จการศึกษา และถ้าจบแพทย์เฉพาะทาง หรือมีผลงานวิจัยทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่เคยได้ทำ ก็ให้ใส่ไว้ใน CV เพื่อแสดงให้เห็นถึงทักษะเพิ่มเติมที่มีด้วย

ตัวอย่างการเขียนหัวข้อการศึกษาใน CV

ปริญญาตรี สาขาวิชาแพทย์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มีนาคม 2558

ทักษะสำหรับไว้เขียนใน CV แพทย์

ทักษะที่มักจะนำมาใส่ไว้ใน CV คือทักษะสำหรับวิชาชีพ (hard skills) และทักษะการเข้าสังคม (soft skills) ซึ่งเป็นทักษะที่ควรมีสำหรับการทำงานในอาชีพนั้น ๆ ส่วนนี้จะดีที่สุดเมื่อที่คุณเขียนถึงสมบัติที่ตัวเองมี และเป็นประโยชน์สำหรับการทำงานแพทย์ของคุณ เขียนออกมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่พวกเขากำลังมองหาอยู่อย่างไรบ้าง ตามตัวอย่างดังต่อไปนี้

ทักษะเฉพาะทาง

  • ทักษะในการกู้ชีพ
  • ทักษะในการดูแลผู้บาดเจ็บฉุกเฉินนอกโรงพยาบาล
  • ทักษะในการดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินนอกโรงพยาบาล
  • ทักษะในการวิจัยทางการแพทย์ฉุกเฉิน
  • ทักษะการตรวจคนไข้ การวินิจฉัยแยกโรค ทักษะการรักษาด้วยเครื่องมือพิเศษ
  • มีความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ การคิดเชิงแก้ปัญหา การมีทัศนคติเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างได้
  • มีทักษะในการวินิจฉัย การวางแผนการรักษา การติดตามการรักษา

ทักษะการเข้าสังคม

  • ทักษะการสื่อสาร
  • มีจริยธรรมการดูแลผู้ป่วย
  • มีทักษะการเป็นผู้นำ
  • มีจริยธรรมในงานวิจัย
  • มีทักษะในการทำงานเป็นทีม
  • มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และสื่อสาร
  • มีทักษะในการสร้างสัมพันธภาพ
  • ทักษะในการสร้างเสริมสุขภาวะ

ทักษะและผลงานโดยสรุป

ทักษะและงานผลงานโดยสรุป เป็นส่วนที่ผู้พิจารณาสามารถอ่านแล้วรู้ถึงทักษะและผลงานของคุณได้ในทันทีผ่านข้อมูลเพียง 4-5 บรรทัด โดยเป็นข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญและโดดเด่นจนผู้พิจารณาอยากให้คุณไปร่วมงานด้วย

ตัวอย่างที่ถูกต้อง
จบการศึกษาสาขาวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์ในการวินิจฉัยรักษาโรค และสั่งยา เป็นแพทย์ผู้ช่วยฝ่ายฉุกเฉินในการผ่าตัดและรักษาอาการบาดเจ็บ รวมทั้งดูแลรักษามารดาที่ตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์เป็นเวลา 3 ปี ผลการฝึกงานอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนั้นยังมีผลงานด้านการเป็นแพทย์อาสาเพื่อให้ความรู้และช่วยเหลือคนในชุมชนทางการแพทย์ในจังหวัดเพชรบูรณ์อีกด้วย
💡ตัวอย่างได้มีการพูดถึงระดับการศึกษา ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งผลงานในการทำงาน และจิตอาสาที่มีในตัวแพทย์ด้วย สร้างความแตกต่างจากผู้สมัครรายอื่น ๆ
ตัวอย่างที่ไม่ถูกต้อง
จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นแพทย์ที่เพิ่งฝึกงานเสร็จ และต้องการเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเข้ามาเป็นแพทย์ในกรุงเทพบ้าง
💡 ตัวอย่างด้านบนไม่ได้มีการพูดถึงการศึกษา ประสบการณ์ หรือผลงาน และยังไม่ได้พูดถึงทักษะที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการรับเข้าเป็นแพทย์ในองค์กรที่ต้องการสมัครได้เลย

ส่วนเพิ่มเติม

ส่วนเพิ่มเติมประกอบด้วยภาษา ความสนใจ ไปรษณียบัตรที่เคยได้รับ รวมทั้งผลงานวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแนบ Reference ให้ไว้ในการพิจารณาเพิ่มเติมได้ด้วย

ภาษา

ภาษาเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับทุกวิชาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงพยาบาลที่อาจมีคนไข้เป็นชาวต่างชาติได้ หากคุณมีผลการสอบวัดผลทางภาษา เช่น TOEFL หรือ IELTS สำหรับภาษาอังกฤษ ที่ดีมายื่น ก็จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้คุณเข้ามาร่วมงานด้วยมากยิ่งขึ้น

เคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ CV แพทย์

CV ที่ดีควรมีเนื้อหาที่ครอบคลุม เขียนอย่างกระชับ และวางรูปแบบไว้อย่างเหมาะสม เพื่อให้มีข้อมูลที่ครบถ้วน และผู้พิจารณาสามารถอ่านได้ง่าย

  • เลือกรูปแบบ CV ที่เหมาะสม ซึ่งควรเป็นทางการ และเรียบร้อย เหมาะกับคุณลักษณะตามวิชาชีพ ตัวอย่างรูปแบบ CV
  • ไม่ควรใช้ CV เดียวสำหรับสมัครงานหลาย ๆ ที่ เนื่องจากไม่มีความเฉพาะเจาะจงและตอบโจทย์มากพอ เนื่องจากแต่ละที่ก็มีคุณสมบัติและความต้องการที่เกี่ยวกับผู้สมัครที่แตกต่างกันออกไป ให้เขียนแยกแล้วปรับให้เข้ากับแต่ละตำแหน่งงานและสถานที่ที่ต้องการสมัครให้ได้มากที่สุดจะดีกว่า และเพิ่มโอกาสให้กับตัวคุณเองได้มากกว่า
  • อ่านทวนข้อมูลก่อนส่งอย่างน้อย 2-3 รอบ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าข้อมูลทุกอย่างนั้นถูกต้องและครบถ้วน และไม่มีคำที่สะกดผิดเลย

สรุปประเด็นสำคัญในการเขียน CV แพทย์

  • CV จะต้องมีข้อมูลส่วนตัว, ตำแหน่งงานที่สมัคร, ข้อมูลไว้สำหรับติดต่อ, สรุปทักษะและผลงาน (professional summary), ประสบการณ์ในการทำงาน, ประวัติการศึกษา, ทักษะ พร้อมส่วนเพิ่มเติมอื่น ๆ
  • สรุปทักษะและผลงานเป็นส่วนที่จะดึงดูดให้ผู้พิจารณาอ่าน CV ของคุณได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้พูดถึงทักษะสำคัญที่คุณมี พร้อมทั้งผลงานที่เคยทำแบบเห็นภาพ
  • ประสบการณ์การทำงาน ประกอบด้วยชื่อบริษัท ตำแหน่งงาน และระยะเวลาทำงาน รวมถึงหน้าที่ในการทำงานอย่างน้อย 3 ข้อด้วย
  • ข้อมูลด้านการศึกษาให้ใส่ทั้งหมด ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท (ถ้ามี)
  • ใส่ทักษะสำหรับการทำงาน (hard skill) และทักษะการเข้าสังคม (soft skill) เพื่อบ่งบอกถึงคุณสมบัติในการทำงานเพิ่มเติมของคุณ
  • ใส่ส่วนเพิ่มเติมอื่น ๆ อย่างภาษา ใบประกาศนียบัตร และผลงานวิชาการของตนเอง เป็นต้น

เขียนเรซูเม่ที่เข้ากับ Cover letter คุณ

เรซูเม่จะกล่าวถึงข้อมูลการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และทักษะพบสังเขป มักยาวประมาณ 1-2 หน้า ส่วน CV จะยาวกว่า 2-20 หน้า เพราะเป็นข้อมูลที่ละเอียดกว่า เช่น แนบ reference งานวิชาการที่เคยได้รับการตีพิมพ์ลงวารสารวิชาการ เนื่องจาก CV มักถูกนำไปใช้ในการสมัครงานในตำแหน่งเชิงวิชาการหรือเป็นนักวิจัย ซึ่งคุณสามารถดูตัวอย่างรูปแบบ CV ของเราได้ที่นี่

บทความที่คล้ายกัน